5 คำถามที่พบบ่อยที่สุด
-
เครื่องทุกรุ่นมาพร้อมระยะประกัน 2 ปีนับจากวันที่ซื้อ ที่แสดงอยู่ในใบเสร็จรับเงิน
หากมีปัญหาการใช้งาน กรุณาติดต่อ NESPRESSO Club ที่ 1800-019-090 (โทรฟรีทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 น. ถึง 19.00 น.) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือทางเทคนิคการแก้ไขปัญหาเบื้อต้น หรือรับคำแนะนำเรื่องการส่งเครื่องเข้าศูนย์บริการ
ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องชงกาแฟที่ผ่านการอบรมของเราสามารถให้การวินิจฉัยอย่างเต็มรูปแบบทางโทรศัพท์ให้กับคุณได้ ทั้งนี้หากไม่สามารถทำการแก้ไขในเบื้องต้นได้ เจ้าหน้าที่จะบริการเปิดงานเข้ารับเครื่องเข้ามาที่ศูนย์บริการให้โดยจะรวมถึงบริการดังต่อไปนี้
- การเข้าไปรับเครื่องชงกาแฟ NESPRESSO จากบ้านของคุณเข้ามาที่ศูนย์บริการ
- การให้ยืมเครื่องชงกาแฟ NESPRESSO รุ่นที่กำหนดในระหว่างที่ซ่อมแซม (หากมีเครื่องสำรองว่างอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ)
- แก้ไขเครื่องชงกาแฟ NESPRESSO ของคุณและตรวจสภาพชิ้นส่วนทั้งหมดให้ พร้อมทำการเปลี่ยนชิ้นส่วนนั้นๆ หากมีการเสื่อมสภาพ
- ส่งมอบเครื่องชงกาแฟ NESPRESSO ของคุณไปส่งคืนให้ยังที่อยู่เดียวกับที่รับเครื่องมา
- ชิ้นส่วนที่มีการซ่อมแซมจะได้รับประกันตามสัดส่วนเวลารับประกันเดิมที่เหลืออยู่ หรือหกเดือนแล้วแต่ว่าระยะเวลาใดจะยาวนานกว่า
หมายเหตุ:หากเครื่องอยู่นอกระยะประกัน จะมีค่าใช้จ่ายในการส่งซ่อมโดยหากเครื่องที่มีฟังชั่นการทำเมนูนมรวมอยู่ด้วย ค่าบริการจะเป็นแบบเหมารวมราคาอยู่ที่ 2,400 บาท แต่หากเครื่องไม่มีฟังชั่นการทำเมนูนมรวมอยู่ด้วย ค่าบริการจะเป็นแบบเหมารวมราคาอยู่ที่ 1,900 บาท ซึ่งจะเก็บค่าบริการในวันที่ทำการส่งมอบเครื่องคืนให้กับพนักงานที่นำเครื่องไปส่งคืน แต่หากในกรณีที่เครื่องที่รับเข้ามาไม่สามารถทำการซ่อมได้ไม่ว่าในกรณีใดๆ เราจะทำการส่งมอบเครื่องคืนให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
ในช่วงระยะเวลารับประกัน NESPRESSO จะซ่อมแซมหรือเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ชำรุดให้ตามดุลยพินิจของบริษัทโดยที่เจ้าของเครื่องไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนทดแทนหรือชิ้นส่วนที่ซ่อมแซมจะได้รับประกันตามสัดส่วนเวลารับประกันเดิมที่เหลืออยู่หรือหกเดือนแล้วแต่ว่าระยะเวลาใดจะยาวนานกว่า การรับประกันแบบจำกัดไม่ครอบคลุมถึงการชำรุดที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อ อุบัติเหตุ การใช้งานที่ไม่ถูกต้อง หรือสาเหตุอื่นใดที่อยู่นอกเหนือการควบคุมตามสมควรของ NESPRESSO รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การสึกหรอตามธรรมดา ความประมาทเลินเล่อ หรือการไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้งานผลิตภัณฑ์ การบำรุงรักษาที่ไม่เพียงพอเหมาะสม การกำจัดคราบตะกรันหรือคราบแคลเซียมสะสม การเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟที่ไม่เหมาะสม การดัดแปลงหรือซ่อมแซมผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า ไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม หรือปัจจัยภายนอกอื่น ๆ การรับประกันนี้มีผลใช้ได้ในประเทศที่ซื้อสินค้าหรือในประเทศอื่นที่ NESPRESSO ขายหรือให้บริการสินค้ารุ่นเดียวกันที่มีข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคเหมือนกันเท่านั้น บริการรับประกันภายนอกประเทศที่ซื้อสินค้าถูกจำกัดตามข้อตกลงและเงื่อนไขของการรับประกันที่เกี่ยวข้องในประเทศที่ใช้งาน ทั้งนี้อาจใช้อัตราค่าธรรมเนียมเดียวกันในกรณีที่เครื่องชงกาแฟ NESPRESSO ไม่ได้อยู่ภายใต้การรับประกันแล้ว
ทางคุณได้รับคำตอบที่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ รบกวนสอบถามเพิ่มเติมที่ -
ปริมาณคาเฟอีนขึ้นอยู่กับกลุ่มกาแฟ และสัดส่วนของกาแฟโรบัสต้าในกาแฟบางตัว (โรบัสต้ามีคาเฟอีนมากกว่าอาราบิก้า) และ "น้ำหนักมาตรฐาน" ของกาแฟต่อแคปซูล
• โดยทั่วไปจะมีปริมาณคาเฟอีน ประมาณ 50 ถึง 100 มิลลิกรัมต่อถ้วย แต่กาแฟบางตัวเช่น Kazaar, Diavolitto และ Fortado เป็นข้อยกเว้นเนื่องจากมีสัดส่วนของกาแฟโรบัสต้าสูง จึงทำให้มีปริมาณคาเฟอีนราว 120-200 มิลลิกรัมต่อถ้วย
• กาแฟกลุ่ม Double Espresso, Lungo, GranLungo, Mug, Alto และ Carafe จะมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ในช่วงประมาณ 60 ถึง 200 มิลลิกรัมต่อถ้วย ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของกาแฟโรบัสต้า และสัดส่วนของกาแฟคั่วบดที่บรรจุภายในแคปซูล
• กาแฟกลุ่ม Decaffeinato จะมีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 3 ถึง 6 มิลลิกรัมต่อถ้วย
งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นระบุว่าการบริโภคคาเฟอีนวันละ 300-400 มิลลิกรัม จากแหล่งต่างๆ ไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ สำหรับผู้ใหญ่ปกติที่มีสุขภาพดี
เมื่อคิดเป็นแก้ว คาเฟอีน 300-400 มิลลิกรัม เทียบเท่ากับกาแฟ NESPRESSO ORIGINAL 4-5 แก้ว หรือกาแฟ Vertuo 2-5 แก้ว ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามสูตรกาแฟแต่ละชนิด โดยส่วนมากจะมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ที่ประมาณ 60-100 มิลลิกรัมต่อแคปซูล แต่หากเป็นกาแฟที่สกัดคาเฟอีนบางส่วนออก ก็จะเหลือปริมาณคาเฟอีนประมาณ 3-6 มิลลิกรัมต่อแคปซูล
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อผ่านหมายเลขโทรฟรี 1800-019-090 ในช่วงเวลา 08:00 - 19:00 น. ทุกวัน หรือเยี่ยมชมทางเวปไซด์ของเราที่นี่ หรืออีเมล์หาเราได้ที่ Club.Thailand@Nespresso.com หรือเพิ่มเพื่อนผ่านไลน์ @NespressoTH
ทางคุณได้รับคำตอบที่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ รบกวนสอบถามเพิ่มเติมที่ -
เพื่อรักษาเครื่องชงกาแฟ NESPRESSO ให้อยู่ในสภาพดี เราแนะนำให้คุณล้างคราบตะกรันบนเครื่องชงกาแฟ เมื่อชงครบ 600 แคปซูล หรือปีละ 1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย ยิ่งน้ำในบริเวณที่คุณอยู่อาศัยกระด้างมากเท่าไหร่ คุณยิ่งควรล้างคราบตะกรันบนเครื่องชงกาแฟ NESPRESSO บ่อยเท่านั้น
สารตกค้างจากน้ำและคราบหินปูนอาจสะสมอยู่ในระบบได้ ซึ่งไม่เพียงจะส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิ การไหล และคุณภาพของกาแฟเอสเพรสโซ่ แต่ยังอาจทำให้อายุการใช้งานของเครื่องชงกาแฟสั้นลงอีกด้วยทางคุณได้รับคำตอบที่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ รบกวนสอบถามเพิ่มเติมที่ -
เราแนะนำให้กดโหมดล้างเครื่อง และทำความสะอาดตัวเครื่องเป็นประจำหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
ทางคุณได้รับคำตอบที่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ รบกวนสอบถามเพิ่มเติมที่ -
เครื่องชงกาแฟของคุณอาจจะมีฟองอากาศที่สามารถปิดกั้นการไหลของน้ำ มักเกิดขึ้นหากคุณใช้งานเครื่องโดยไม่มีน้ำในถังหรือหลังจากไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลาหนึ่งหากพบอาการนี้ แนะนำให้เติมน้ำอุ่นลงในถังน้ำ นำแคปซูลออกจากช่องใส่แคปซูล ปิดฝาหรือคันโยกลง แล้วกดปุ่มถ้วยขนาดใหญ่ (5-10 ครั้ง) น้ำควรเริ่มไหลจากหัวจ่ายกาแฟ
หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมโปรดโทรติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคผ่านหมายเลขโทรฟรี
กรุณาติดต่อ NESPRESSO Club ที่ 1800-019-090 (ให้บริการ ตั้งแต่ 08.00 น. ถึง 19.00 น.) หรือทางอีเมล Club.Thailand@Nespresso.comทางคุณได้รับคำตอบที่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ รบกวนสอบถามเพิ่มเติมที่